1. กระจกแท้ เหมาะสำหรับงานทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นกรอบสำเร็จรูปที่ใช้ใส่ ใบประกาศต่างๆ หรือ กรอบรูปภาพพิมพ์ ภาพปริ้น ภาพกำมะยี่ หรือ สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นตู้พระ หรือ ตู้ใส่ผลงานเรซินได้ เนื่องจากมีลักษณะที่ใส ไม่เป็นขุ่น และ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับลูกค้าทุกประเภท
2. กระจกตัดแสง นอกจากกระจกใสปกติแล้วจะมีกระจกตัดแสงอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับงานประณีตขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เนื่องจากกระจกตัดแสงจะป้องการแสงสท้อน และ ยังมีชั้นกรองแสงเพื่อรักษาสีของภาพถ่าย ซึ่งเหมาะกับกรอบรูปงาน Outdoor ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับแสงแดด และ อาจจะมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับกระจกใสปกติทั่วไป
3. กระจกอคิริก เหมาะกับงานที่ต้องการกรอบขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะมาทดแทนกระจกใส่ เนื่องจากกรอบรูปขนาดใหญ่กว่า 30 x 50 นิ้ว (76.2 x 127 ซม) นั้นมักจะเป็นกระจก 3 มม ซึ่งจะทำให้กรอบนั้นมีนำ้หนักสูงขึ้น และ มีความเสี่ยงสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนมากจะนิยมใช้กระจกอคิริกกัน เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบากว่า และ วัสดุที่คงทนกว่าซึ่งจะไม่แตกร้าวได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป แต่มักจะมีข้อเสียคือในการทำความสะอาดที่ลำบากกว่า ซึ่งไม่อาจจะใช้น้ำยาเช็ดกระจกทั่วไปได้ซึ่งจะทำให้กระจกอคิริกนั้นขุ่นขึ้น และ จำเป็นต้องสรรหา น้ำยาทำความสะอาดที่เบาบางลง เช่น Baby Oil หรือ น้ำสมสายชู เป็นต้น
4. กระจก Plastic เหมาะกับกรอบสำเร็จรูป ซึ่งจะมีลักษณะที่บางกว่ากระจกแท้ และ กระจกอคิริก และ มักจะมีฟิลม์กันรอยเคลือบอยู่ จึงทไให้เหมาะกับงานกรอบสำเร็จรูปทั่วไป เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีต้นทุนที่ต่ำ และ ยังตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อีกด้วย